วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Base Training ตอนที่ 2 พื้นฐานการใช้พลังงานของร่างกาย

พื้นฐานการใช้พลังงานของร่างกาย

กรดแลกติก และกล้ามเนื้อ.....

ขณะที่ปั่นจักรยานด้วยความหนักเหมาะสมในช่วง base training ร่างกายของเราควรจะทำงานแบบแอโรบิก (เซลล์กล้ามเนื้อใช้ออกซิเจนในการสันดาปเชื้อเพลิงที่อยู่ในรูป ไกลโคเจน หรือ ไขมัน ออกมาเป็นพลังงานให้กล้ามเนื้อ) ตลอดเวลาที่ฝึกซ้อมร่างกายจะได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอต่อเนื่อง
อีกมุมหนึ่งก็คือ กรดแลกติกจะถูกควบคุมอย่างเหมาะสม มาถึงตรงนี้อาจจะขัดกับความเชื่อทั่วไปที่เราเคยได้ยินมาว่ากรดแลคติก (หรือแลคเตท) เป็นตัวร้ายที่ทำให้ขาของเราปวดร้าวสั่นสะท้านทุกครั้งที่กดบันไดขึ้นเขา เพราะความจริงแล้วนั้น กรดแลคติก (หรือแลคเตท) คือ เชื้อเพลิงในรูปหนึ่งของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการเคมีในเซลล์กล้ามเนื้อ และตัวกรดแลคติก (หรือแลคเตท) นี่เองที่ใช้ออกซิเจนในการสันดาปตัวเองออกมาเป็นพลังงาน
มาติววิชาชีววิทยากันหน่อยนะคะ ....
ในเซลล์กล้ามเนื้อของร่างกายเรา จะมีอวัยวะเล็กๆ ของเซลล์ตัวหนึ่ง ที่เรียกว่า ไมโทคอนเดรีย (mitochondria) มันทำหน้าที่เหมือนเป็นโรงผลิตไฟฟ้าเล็กๆ อยู่ภายในแต่ละเซลล์ของร่างกายมนุษย์ และในโรงผลิตไฟฟ้าเล็กๆเหล่านี้ คือสถานที่สำคัญที่เจ้ากรดแลคติก (หรือแลคเตท) ถูกดึงเข้าไปเผาไหม้เป็นพลังงาน แต่ไมโทคอนเดรียก็มีลิมิตของมันเช่นกัน เมื่อมันถูกใช้ในการสันดาปกรดแลคติก (หรือแลคเตท) มากๆ จนถึงจุดอิ่มตัว มันก็จะไม่รับเชื้อเพลิงเข้ามาอีกต่อไป ปล่อยให้แลคเตทออกไปลอยละล่องเรี่ยราดอยู่ในเส้นเลือด เมื่อแลคเตทละลายอยู่ในเส้นเลือดก็แตกประจุตัวเองออกมาเป็น กรดแลคติก นี่เป็นกลไกการทำงานปกติของกล้ามเนื้อที่พยายามจะส่งแลคเตทที่ล้นมากเกินไป ออกไปหาที่กำจัดที่อื่น
แลคเตท คือ ชื่อเรียก กรดแลกติกในรูปของสารประกอบอินทรีย์ที่มีขั้วไฟฟ้าเป็นกลาง เมื่อละลายน้ำหรือละลายในเลือด จะมีสภาพเป็นกรด
เมื่อฝึกซ้อม base training อย่างถูกต้องและเหมาะสม ระดับของกรดแลกติกที่ถูกเซลล์กล้ามเนื้อขับออกมาในระบบเส้นเลือดจะไม่เพิ่มขึ้น นั่นก็หมายความว่า ไมโทคอนเดรียในเซลล์มีความสามารถในการสันดาปเชื้อเพลิงได้ดีขึ้น (สามารถเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น และมีความจุได้มากขึ้น) โดยที่ไม่ต้องเขี่ยแลคเตททิ้งออกไปนอกเซลล์ และนั้นก็หมายความว่านักกีฬาสามารถดึงพลังงานกลับเข้าไปรีไซเคิลใช้ได้โดยไม่สูญเปล่า
การซ้อมเบาๆ แบบ base training ก็เหมือนกับการพาไมโทคอนเดรียไปเข้ายิมยกเวท ฮึ่บ! ฮึ่บ! มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อและมองไม่เห็นด้วยตา แต่ที่สิ่งเกิดขึ้นในเซลล์ คือ เจ้าไมโทคอนเดรียจะล่ำขึ้น มีความสามารถในการใช้แลคเตทได้ดีขึ้น และยังกระตุ้นให้ไมโทคอนเดรียเผาผลาญไขมันเอามาเป็นเชื้อเพลิงภายในเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ในทางตรงกันข้าม การฝึกซ้อมหนักๆ เป็นการสอนให้ไมโทคอนเดรียถนัดในการใช้ไกลโคเจน (เชื้อเพลิงที่สะสมภายในร่างกายในรูปของคาร์โบไฮเดรต หรือคาร์บ) แต่อย่างที่รู้กันว่าไกลโคเจนในร่างกายมีจำกัดเพียงพอต่อการออกกำลังกายในช่วงเวลา 30 - 90 นาทีเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับความหนัก) แต่ไขมันภายในร่างกายซึ่งปกติถูกเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินนั้น มีมากมากมายกว่าไกลโคเจนเสียอีก
ถ้าเปรียบร่างกายเราเป็นรถยนต์ กล้ามเนื้อของเราก็คือบอดี้รถ เครื่องยนต์คือไมโทคอนเดรีย รถของเราจะมีถังเชื้อเพลิง 2 ถัง ถังเล็กจุดระเบิดไวคือไกลโคเจน ส่วนถังใหญ่จุดระเบิดช้าถ้าไม่สอนให้มันเอาออกมาใช้ก่อนนั่นคือไขมัน (ในรูปของไตรกลีเซอไรด์)
.....
ตอนต่อไป.... เบสเทรนนิ่งมันแสนจะน่าเบื่อและต้องใจเย็นๆใช้เวลา แต่มันจะต้องใช้เวลาแค่ไหนกันจึงจะมีประสิทธิภาพ เดี๋ยวว่างๆ จะมาเล่าต่อนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น